มนัสวี วงษ์สุรีย์รัตน์, ชลิตา ดอกบัว

ช่วงระหว่างวันที่ 12-28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมากรมควบคุมโรค
ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ ฉลาก พร้อมทั้งข้อความคำเตือน สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้า ตามบทบัญญัติมาตรา 26 (1) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
โดยร่างประกาศฉบับนี้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ ฉลากและข้อความคำเตือนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้าไว้ ดังนี้
กำหนดให้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นภาชนะบรรจุต้องมีปริมาณบรรจุสุทธิไม่น้อยกว่า 175 มิลลิลิตร
กำหนดให้บรรจุภัณฑ์และฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องไม่ใช้ข้อความตามที่กฎหมายกำหนด
กำหนดให้มีข้อความคำเตือนบนภาชนะบรรจุของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กำหนดให้มีข้อความคำเตือนถึงโทษและพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนภาชนะบรรจุและหีบห่อบรรจุของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งให้จัดทำเป็นรูปภาพ 4 สี 9 แบบ สับเปลี่ยนกันไปตามลำดับในอัตรา 1แบบ ต่อ 1,000 ภาชนะบรรจุและหีบห่อบรรจุ
กำหนดขนาดของข้อความคำเตือนถึงโทษและพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กำหนดข้อยกเว้นไม่ให้ใช้บังคับกับสุราสามทับและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้าเพื่อจำหน่ายนอกราชอาณาจักร หรือผลิตหรือนำเข้าเพื่อเป็นตัวอย่างในการทดสอบ วิเคราะห์ หรือวิจัย โดยมีรายละเอียดในการผลิตหรือนำเข้าเพื่อการดังกล่าวอย่างชัดเจนและมิได้กระทำเพื่อประโยชน์ในทางการค้าในราชอาณาจักร
กำหนดให้บรรจุภัณฑ์และฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้าที่ได้จัดทำขึ้นไว้ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้ต่อไปได้ แต่ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
กำหนดให้ประกาศมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
กรมควบคุมโรคได้เผยแพร่ประกอบเอกสารรับฟังความเห็นในเว็บไซต์ของ ผ่านระบบกลาง ทางกฎหมายที่ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MzMwMURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
ร่างประกาศดังกล่าวหากมีการบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่อการจัดทำบรรจุภัณฑ์และฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอย่างมาก โดยจะทำให้บรรจุภัณฑ์และฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องมีข้อความคำเตือนและรูปแสดงถึงโทษและพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะเดียวกันกับผลิตภัณฑ์บุหรี่นั่นเอง
จึงเป็นที่น่าสนใจว่าร่างประกาศของกรมควบคุมโรคฉบับนี้จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือ จะผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ต่อไป